เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วนะคะว่า อิกโนเบล คือรางวัลผลงานการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ที่แหวกแนวและไม่น่าเป็นไปได้
โดยนิตยสาร Annals of Improbable Research ที่หอประชุมในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งสิ้น 10 สาขา โดยผู้พิชิตรางวัลแต่ละสาขา จะได้รับมอบรางวัลจากผู้พิชิตรางวัลโนเบลของจริงของสวีเดน ซึ่งรางวัลนอกจากโล่ประกาศเกียรติคุณ ยังมีเงินสดเป็นธนบัตรสกุลดอลลาร์ของซิมบับเว 1 ใบ มูลค่า 10 ล้านล้านดอลลาร์ซิมบับเว เท่ากับประมาณ 2 - 3 ดอลลาร์สหรัฐ
รางวัลอิกโนเบลสาขาต่างๆในปี 2015 มีดังนี้
สาขาเศรษฐศาสตร์ เป็นของกองบัญชาการตำรวจนครบาลของไทย จากโครงการจ่างเงินรางวัลให้ตำรวจที่ไม่รับสินบน สืบเนื่องมาจากการออกนโยบายให้เงินพิเศษแก่ตำรวจที่ร่วมด้วยช่วยกันปราบปรามสินบน
สาขาคณิตศาสตร์ ผลงานของเอลิซาเบ็ธ โอเบอร์ซาวเชอร์ และคณะ แห่งมหาวิทยาลัยเวียนนา ในออสเตรีย จากความพยายามในการใช้เทคนิคทางคณิตศาสตร์เพื่อหาว่า สุลต่าน มูเลย์ อิสเมล แห่งโมร็อกโก สามารถปั๊มลูกได้ถึง 888 คน ในช่วงเวลาระหว่างปี 1697-1727 ได้อย่างไร ซึ่งจากการสรุปผลการคำนวณ มีความเป็นไปได้ที่มนุษย์ผู้ชายคนหนึ่ง จะสามารถเป็นพ่อให้กำเนิดลูกได้อย่างน้อย 888 คน โดยโอเบอร์ซาวเชอร์ศึกษาประวัติของจักรพรรดิ์มูเลย์ อิสมาเอล แห่งโมร็อกโก ที่ครองราชย์ประมาณ 30 ปี จนถึงปี พ.ศ. 2370 พบว่าพระองค์มีพระโอรสและพระธิดาอย่างน้อย 888 องค์ จากการมีเพศสัมพันธ์ทุกวัน กับมเหสีและนางสนมอย่างน้อย 65 คน จากสตรีราว 500 คน ที่อยู่ในฮาเร็มของพระองค์
สาขาสรีรศาสตร์และกีฏวิทยา ผลงานของ นายไมเคิล สมิธ นักศึกษาระดับปริญญาโทหนุ่มชาวอเมริกัน แห่งมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ จากการทดลองให้ผึ้งต่อยอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายตนเอง 25 จุด ประมาณ 200 ครั้งในปี 2555 เพื่อจะดูว่า ส่วนไหนของร่างกายที่ได้รับความเจ็บปวดมากที่สุด จากพิษของเหล็กไนผึ้ง โดยสมิธได้ข้อสรุปว่า จุดที่เจ็บน้อยที่สุดคือกะโหลกศีรษะ ปลายนิ้วกลางเท้าและท่อนแขนส่วนบน จุดที่เจ็บปวดมากที่สุดคือรูจมูก ริมฝีปากส่วนบน และอวัยเพศ สมิธิรับรางวัลร่วมกับ จันสติน ชมิดท์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแอริโซนา ผู้คิดค้นการตรวจวัดระดับความเจ็บปวด จากการถูกแมลงต่อย
สาขาเคมี มอบแก่กลุ่มนักวิจัยชาวออสเตรเลีย จากการคิดค้นสูตรเคมีในการคืนสภาพไข่ต้มกลับเป็นไข่ดิบ ผลงานทางวิทยาศาสตร์ชวนทึ่ง ที่เห็นแล้วถึงกับต้องร้องออกมาว่า คิดได้ยังไงกัน เมื่อศาสตราจารย์โคลิน ราสตัน (Colin Raston) นักวิทยาศาสตร์ด้านเคมี จากมหาวิทยาลัยฟลินเดอร์ส ในนครแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย ประดิษฐ์เครื่องคืนสภาพไข่ด้วยกระแสไหลวน โดยกระบวนการทำงานคือ คลายสภาพของโปรตีนในไข่ขาวที่สุกแล้ว ให้กลับไปสู่สภาพเดิมตามธรรมชาติ เมื่อใส่ไข่ต้มเข้าไปก็จะได้ไข่ดิบออกมานั่นเอง สวดยวด !!
สาขาฟิสิกส์ เป็นของเป็นของแพทริเซีย หยางและทีมนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีจอร์เจีย (จอร์เจียเทค) ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐ ที่พิสูจน์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแทบทุกชนิดจะฉี่จนเกลี้ยงกระเพาะปัสสาวะภายในเวลา 21 วินาที (บวก-ลบ 13 วินาที) โดยทีมวิจัยจากจอร์เจียเทคใช้การวิเคราะห์จากการบันทึกภาพด้วยวิดีโอความเร็วสูง โดยสร้างแบบจำลองการไหลของของเหลวที่เป็นส่วนประกอบในปัสสาวะและพบว่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดที่มีน้ำหนักมากกว่า 3 กิโลกรัม จะขับถ่ายของเหลวออกมาจนกระเพาะปัสสาวะว่างเปล่าโดยใช้เวลาราว 21 วินาที ซึ่งกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยนี้ประกอบไปด้วยหนู แพะ วัวและช้าง
สาขาวรรณกรรม เป็นของ มาร์ก ดิงแมนส์, ฟรานซิสโก ทอร์เรรา และ นิค เต เอนฟีลด์ ในค้นพบว่าคำว่า "huh" (ห๊ะ) เป็นคำที่มีอยู่ในทุกชาติทุกภาษา
สาขาการจัดการ มอบแก่ ผู้เขียนงานเขียน "What Doesn't Kill You Will Only Make You More Risk-Loving: Early-Life Disasters and CEO Behavior จากจากงานเขียน "What Doesn't Kill You Will Only Make You More Risk-Loving: Early-Life Disasters and CEO Behavior" ที่พบว่า ผู้นำทางธุรกิจหลายรายที่เริ่มมีความความเสี่ยงในวัยเด็ก เมื่อโตขึ้นและเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ไฟป่า ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเขามากนัก
สาขาการแพทย์ มอบแก่นักวิจัย สองกลุ่มร่วม นำโดยนายฮาจิเมะ คิมาตะ และจารอสลาวา ดูรเดียโคว่า จากผลงานการทดลองเพื่อศึกษาหาประโยชน์ด้านชีวการแพทย์ (biomedical) และผลที่จะเกิดขึ้นจากการจูบกันอย่างดูดดื่ม และการปฎิสัมพันธ์อย่างแนบแน่นดูดดื่มอื่น ๆ
สาขาชีววิทยา มอบแด่กลุ่มนักวิจัยชาวชิลีและสหรัฐฯ จากการเฝ้าสังเกตจนพบว่า เมื่อนำไม้ไปถ่วงที่ก้นไก่ จะทำให้ไก่เดินเหมือนไดโนเสาร์
สาขาการวินิจฉัยโรค เป็นของทีมนักวิจัยจากสหราชอาณาจักร จากงานวิจัยที่พบว่า ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ระหว่างนั่งรถผ่านลูกระนาดชะลอความเร็ว อาจช่วยวินิจฉัยอาการไส้ติ่งอักเสบได้